รวม 6 วิธีดูแลสีรถสุดรัก ให้แลดูใหม่อยู่เสมอ

การดูแลรักษาสีรถยนต์อย่างถูกต้อง

พูดถึงเรื่องการดูแลรักษารถยนต์ คนส่วนมากก็คงจะเน้นไปที่การดูแลเครื่องยนต์ส่วนต่างๆ หรือชิ้นส่วนจำพวกอะไหล่ ที่อยู่ภายในรถซะมากกว่า แต่จริงๆ แล้ว การดูแลรักษาสีรถยนต์ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

การดูแลรักษาสีรถยนต์ ไม่ใช่แค่การล้างทำความสะอาด ลงแว็กซ์ หรือเคลือบเงาเท่านั้น แต่การดูแลรักษาสีรถยนต์ มีกรรมวิธีมากกว่าที่คุณคิด วันนี้ Carro จึงมีข้อมูลมาอัพเดทให้คุณได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การดูแลรักษาสีรถยนต์ได้อย่างถูกต้อง เพื่อการดูแลสีรถของคุณให้ดูใหม่ สะอาด สดใส ไปอีกนานค่ะ

การจอดรถกลางแจ้ง

จะทำให้แสง UV ทำลายสีรถโดยตรง กรณีที่คุณไม่มีโรงรถหรือหลังคาที่กันน้ำกันแดดได้ ควรติดกันสาดที่ขอบกระจกทุกบาน เพราะจะช่วยกันฝนเข้าไปในห้องโดยสารตอนคุณแง้มกระจกไว้ การแง้มกระจกไว้สักหนึ่งนิ้วจะช่วยระบายไอร้อนในรถ ลดอุณหภูมิในห้องโดยสารได้ เมื่อในห้องโดยสารระบายความร้อนได้ดี ก็จะช่วยให้หลังคารถอุณหภูมิไม่สะสมสูงนัก สีหลังคาก็จะไม่โดนทำร้าย

กรณีต้องจอดรถได้ต้นไม้ สามารถเอาผ้าคลุมรถมาใช้เพื่อป้องกันยางไม้และขี้แมลงได้ แต่ถ้ามีที่จอดประจำแต่ไม่มีหลังคา ก็มีหลังคาโรงรถแบบพับได้หรือเต็นท์ราคา 3,000-4,000 บาท ซึ่งช่วยได้ กรณีที่ไม่สามารถทำอะไรเพื่อให้ร่มเงาได้ การเคลือบแก้วหรือการเคลือบสีเป็นประจำสามารถช่วยให้สีทนต่อแดดได้มากขึ้น

ผ้าคลุมรถ

ไม่ว่าผ้าคลุมจะคุณภาพดีแค่ไหน คุณก็ไม่ควรคลุมแล้วจอดกลางแจ้ง เพราะไอร้อนที่เกิดขึ้นใต้ผ้าคลุมรถนั้นสะสมสูงมาก สูงจนอาจจะทำให้ผ้าหรือสารเคมีที่เคลือบอยู่  ละลายติดกับสีรถได้เลย การใช้ผ้าคลุมรถที่ดีควรใช้ในที่ร่มเท่านั้น และควรเลือกผ้าคลุมที่มีคุณภาพระบายความร้อนและความชื้นได้ดี

ขัดเคลือบสี

หลายคนจะเห็นคำนี้บ่อย ๆ ตาม Car wash หรือคาร์แคร์ และมักจะเข้าใจว่า “การขัด” กับ “การเคลือบสี” เป็นขั้นตอนเดียวกัน แต่ความจริงแล้วมันแยกเป็น 2 ขั้นตอน เหตุผลที่ต้อง “ขัด” ก่อนเคลือบสีรถ เนื่องจากรถที่ใช้งานมานาน จะมีรอยขนแมวเกิดขึ้นจากการล้างและเช็ดที่ไม่สะอาด ดังนั้นจึงต้องขัดสีเพื่อลบรอยขนแมวออกก่อน

“การขัดสี” ก็คือ การขัดผิวหน้าของสีหรือแล็กเกอร์ออกไป เพื่อให้สีเรียบเนียนและเงางาม และทำให้ชั้นสีที่เคลือบอยู่บางลง เมื่อขัดสีเสร็จ ก็ต่อด้วยขั้นตอน “เคลือบสี” เพื่อให้ผิวรถมีความเงางาม และเป็นตัวเคลือบเพื่อปกป้องชั้นสีที่ถูกขัดออกไปให้ทนทานต่อรอยขีดข่วน เมื่อขัดและเคลือบสีแล้ว ควรจะไปเคลือบสีซ้ำตามระยะเวลาของผู้ผลิตน้ำยาเคลือบกำหนด เพื่อให้ผิวรถที่ขัดแล้วมีอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้น

ขัดหยาบ ขัดละเอียด

การขัดสีนั้นจะแบ่งเป็น 2 แบบขึ้นอยู่กับสารเคมีหรือน้ำยาขัด โดยปกติจะมีน้ำยาแบบ “ขัดหยาบ” และ “ขัดละเอียด” กรณีที่ผิวของแล็กเกอร์เป็นรอยลึก ต้องใช้น้ำยาแบบขัดหยาบก่อนเพื่อให้ผิวของแล็กเกอร์บางลง จากนั้นตามด้วยน้ำยาขัดละเอียดเพื่อที่จะให้ผิวที่ถูกขัดชั้นแรกเรียบเนียน จากนั้นจึงตามด้วยน้ำยาเคลือบและชักเงา

โปรแกรมการเคลือบดูแลรักษาสีรถยนต์ปัจจุบันมีมากมายหลายยี่ห้อ แต่ถ้าเป็นแพ็คเกจก็มีราคาตั้งแต่ 3,000 – 4,000 บาทขึ้นไป จนถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว

GLASS COATING

หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า การเคลือบแก้ว ซึ่งการทำแต่ละครั้งนั้นมีราคาสูง แต่ก็จะช่วยให้รถเงางามและผิวรถจะดูฉ่ำขึ้น สีสดขึ้น แถมยังช่วยลดเวลาในการเข้าไปใช้บริการได้มจาก

ข้อดีอีกอย่างคือ การเคลือบจะทำให้ผิวของสีมีความแข็งขึ้น ทนต่อรอยการขีดข่วนและคราบสกปรกอื่น ๆ เกาะติดได้ยาก การทำความสะอาดก็ง่าย แต่ราคาค่อนข้างสูง ส่วนสาเหตุที่ทำให้สีรถหมอง ไม่เงางาม นั่นก็คือ แสง UV ดังนั้นสารเคมีที่ผสมลงไปในน้ำยาเคลือบ จะต้องมีคุณสมบัติป้องกันและสะท้อนแสง UV ได้ด้วย เพราะเป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้สีเสื่อมสภาพ

เคลือบภายในห้องโดยสาร

สำหรับรถที่เป็นเบาะผ้า เมื่อออกรถมาใหม่ควรเข้าไปพ่นน้ำยากันน้ำและปกป้องเนื้อผ้า น้ำยาเคมีที่ฉีดพ่นลงไปนั้น จะช่วยให้เบาะผ้าไม่เป็นรอยด่าง เพราะน้ำจะซึมเข้าเนื้อผ้าได้ยากขึ้น และช่วยป้องกันไม่ให้เบาะนั่งดำหรือเป็นคราบไคลติดแน่น ส่วนเบาะหนัง ถ้าเป็นโทนสีอ่อนก็ต้องเคลือบน้ำยาเช่นกัน เพราะเบาะนั่งสีอ่อนนั้นแค่ช่วงเวลาไม่กี่เดือน ก็จะเป็นคราบดำด่าง น้ำยาที่เคลือบจะช่วยไม่ให้เบาะหนังเสื่อมสภาพเร็ว และป้องกันไม่ให้เลอะง่าย

การดูแลภายในห้องโดย อีกทางหนึ่งนอกเหนือจากการทำความสะอาด ก็คือ การเลือกฟิล์มกรองแสง ที่มีคุณภาพสามารถสะท้อนแสง UV และสะท้อนความร้อนได้ดี เพราะจะช่วยยืดอายุชิ้นส่วนภายในห้องโดยสารด้วย

ทั้งหมดนี้ ก็คือการดูแลรักษาสีรถยนต์ที่ Carro นำมาฝาก ซึ่งจะดีต่อรถยนต์ของคุณอย่างแน่นอน ถ้าคุณปฏิบัติตาม เพราะเป็นการดูแลรักษาสีรถยนต์ที่ถูกต้อง และจะทำให้รถยนต์ของคุณดูสดใส ดูใหม่อยู่เสมอ

cr.carro

สนใจสั่งซื้อรถมือสองได้ที่
website : www.expatautocm.com
Tel. 053241722
Line@ : @expatautocm (มี@ด้วยนะ)

Toyota captures data gold mine in $1 billion Grab bet

TOKYO/SINGAPORE -- By pumping $1 billion into ride-hailing company Grab, Toyota Motor Corp. stands to gain a passenger-side view of tens of thousands of cars across Southeast Asia, tracking how fast they drive, how far they travel and the time they spend stuck in traffic.

The Japanese automaker said it intends to install its TransLog driving recorder devices into Grab's fleet of lease cars to access the data on driving patterns that will be crucial to its push into the nascent mobility-as-a-service industry.

"Only ride-hailing companies have good, extensive data on usage, so automakers want to be connected with that," said Egil Juliussen, director of research for automotive infotainment and advanced driver assistance systems at IHS Markit.

Grab already monitors driving behavior through its app to increase ride safety, sending emails about speed and braking, for instance, to its drivers, such as Singapore's Rennu Mahajan.

"With this system, it keeps me in check," said Mahajan, 57.

It will get even more vehicle data with Toyota, which has been harvesting data through TransLog since 2016 in sales and trials with taxi companies and car-hailing operators including Grab. The data give Toyota insight into fleet management as it develops services including futuristic concepts such as pay-per-use mobile restaurants.

The latest deal, announced last week, gives Toyota access to a single pool of vehicles that potentially eclipses all others. That will allow it to capture a volume of data that would be difficult to collect from private cars that are only used for under 5 percent of any given day, often on routine commutes.

In return, Grab will be able to expand services such as food delivery and digital payments using Toyota's $1 billion investment -- the biggest by a traditional automaker in a ride-sharing app maker.

The deal reflects how automakers are clamoring for access to ride-hailing companies' extensive user bases through a spate of partnerships, as they compete with technology companies to develop autonomous cars and next-generation transportation services.

Toyota's vision of such services includes convoys of shuttle bus-sized, self-driving multipurpose vehicles used, for instance, as pay-per-use mobile restaurants and hotels, which the automaker plans to develop and customize for retail customers.

"There's data about the car, and then there's also data about the service -- how many customers drivers have, what's the average mileage, where the rides are concentrated," said Juliussen. "Having that picture in all the major [Southeast Asian] cities, that becomes very valuable."

Toyota and Grab will be able to use the data for possible collaboration on data-driven services such as vehicle diagnostics and customized insurance plans based on driver usage.

The data will also help Grab maintain efficiency in fleet maintenance as it expands deeper into Southeast Asia where it operates in more than 200 cities. It has said it wants build the region's largest car rental fleet by the fourth quarter of 2018.

"Vehicle maintenance costs, insurance costs, these are bread-and-butter issues for ride-hailing drivers," said Chua Kee Lock, CEO of Vertex Venture Holdings in Singapore, an early Grab investor.

Industry experts said Toyota could expand its data service to more mobility companies such as Didi Chuxing, Uber Technologies Inc. and Amazon, with which it has separate partnerships.

"This partnership with Toyota will keep Grab's platform 'sticky' and give drivers less incentive to switch to competitors," said Chua. "This is Grab's edge over the long run."

cr.autonews

Second hand car in Chiang Mai
website : www.expatautocm.com
Tel. 053241722
Line@ : @expatautocm (มี@ด้วยนะ)